เลเซอร์กำจัดขน คืออะไร มีทั้งหมดกี่แบบ?

เลเซอร์กำจัดขน คืออะไร มีทั้งหมดกี่แบบ?

สมัยนี้ ใครๆ ก็อยากที่จะได้ใส่เสื้อแขนกุด กางเกงขาสั้น กระโปรงตัวจิ๋ว อวดเรียวแขน เรียวขา และ รักแร้ ที่สวยลูบแล้วเรียบเนียน ฟิน ไม่มีขน กันใช่มั้ยคะ แต่ถ้าใครอยากมีผิวที่เรียบเนียน ไม่มีขนแบบนานๆ ไม่ต้องโกนหรือถอนหรือแว็กซ์บ่อยๆ “เลเซอร์กำจัดขน” คือคำตอบสำหรับเพื่อนๆ เลยค่า! ซึ่งเลเซอร์กำจัดขน มีหลายประเภทมากๆ แต่ละชื่อ แค่อ่านก็งงแล้ว มีแต่ศัพท์ยากๆ เต็มไปหมดเลย อ่านเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจ ทำยังไงดี

วันนี้ Topthai clinic จะมาแนะนำสาวๆ อย่างละเอียดเกี่ยวกับเรื่อง เลเซอร์กำจัดขน หรือ Laser Hair Removal ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย!

Topthai clinic จะมาแนะนำ เรื่อง เลเซอร์กำจัดขน หรือ Laser Hair Removal ไปดูกันเลย!

1

Long-pulsed Alexandrite laser

"Long-pulsed Alexandrite laser"

Long-pulsed Alexandrite laser เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 755 nm โดยเป็นคลื่นเลเซอร์ที่ใช้ผลึกอเล็กแซนไดร์เป็นตัวกลางในการผลิตแสง ทำให้สามารถลงลึกได้ลึกกว่า และสามารถจับเม็ดสีได้ดีกว่าคลื่นพลังงานเลเซอร์แบบ Long-pulsed ruby laser และ IPL ทำให้มีประสิทธิภาพในการกำจัดขนค่อนข้างดี

การทำ IPL เป็นวิธีรักษาปัญหาผิวในลักษณะเดียวกันกับ การทำเลเซอร์ โดยจะใช้แสงที่มีความถี่คลื่นแสงหลายช่วงคลื่น คล้ายกับแสงแฟลชของกล้องถ่ายภาพ ยิงไปยังผิวหนังบริเวณที่มีปัญหาหรือต้องการกำจัดขน เซลล์เม็ดสีในผิวจะดูดซึมพลังงานแสงดังกล่าวและเปลี่ยนเป็นความร้อน ส่งผลให้เม็ดสีที่เป็นสาเหตุของจุดด่างดำและริ้วรอยถูกทำลาย รวมทั้งช่วยกำจัดต่อมรากขน ป้องกันการเกิดขนบริเวณนั้นๆ

ทั้งนี้ คลื่นแสง IPL จะกระจายตัวมากกว่าแสงเลเซอร์ และซึมเข้าไปยังชั้นผิวหนังแท้โดยไม่ทำลายหนังกำพร้าหรือผิวชั้นนอก ส่งผลให้ผิวหนังถูกทำลายน้อยกว่าการทำเลเซอร์ที่ยิงแสงออกมาเพียงช่วงความถี่เดียว

IPL รักษาปัญหาผิวพรรณชนิดใดได้บ้าง?

  • ระหว่างทำ IPL: การทำ IPL ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดและบริเวณที่รักษา แพทย์จะวางอุปกรณ์สำหรับยิงแสง IPL ไว้บนผิวหนังบริเวณดังกล่าว ซึ่งอุปกรณ์นี้จะปล่อยพลังงานแสงออกมา ระหว่างนี้อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
  • หลังทำ IPL : เมื่อทำ IPL เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผู้ที่เข้ารับการรักษาสามารถกลับบ้านและทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติ แต่ผิวหนังบริเวณที่ถูกยิงแสง IPL อาจมีรอยแดงและรู้สึกระคายเคืองคล้ายถูกแดดเผาประมาณ 2-3 ชั่วโมง รวมทั้งอาจยังคงมีอาการระคายเคืองและบวมเล็กน้อยในช่วงประมาณ 2 วันหลังเข้ารับการรักษา

ทั้งนี้ การรักษาปัญหาผิวหรือกำจัดขนด้วย IPL ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามต้องการ สำหรับการรักษาปัญหาผิวพรรณต้องทำซ้ำประมาณ 3-6 ครั้ง ส่วนการกำจัดขนตามร่างกายต้องทำซ้ำ 6-12 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะเว้นช่วงพักฟื้นผิวหนังประมาณ 1 เดือน

ดูแลตัวเองหลังทำ IPL อย่างไร?

หลังเข้ารับการทำ IPL ควรดูแลตัวเอง ดังนี้

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนทำความสะอาดผิวบริเวณที่ระคายเคืองเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการโดนแดดเป็นเวลา 2-3 สัปดาห์ ควรทาครีมกันแดดและสวมเสื้อผ้าปกปิดผิวหนังให้มิดชิดเมื่อต้องออกไปข้างนอก
  • ทายาชาเฉพาะที่หากรู้สึกปวดบริเวณที่ได้รับการรักษา
  • เลี่ยงการประคบร้อนหรือการอาบน้ำอุ่นจนกว่าบริเวณดังกล่าวจะฟื้นตัวสู่สภาวะปกติ

ผลข้างเคียงจากการทำ IPL

ส่วนใหญ่แล้ว การทำ IPL จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงเป็นรอยแดงและบวมที่ผิวหนังเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปภายใน 1-2 วัน ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ มีดังนี้

  • ผิวหนังบริเวณที่ถูกแสง IPL มีสีแดงเรื่อและรู้สึกปวดเล็กน้อย
  • ผิวไหม้เล็กน้อย โดยปรากฏเป็นรอยแดง ผิวลอก และบวม ประมาณ 2-3 วันหลังรับการรักษา
  • มีตุ่มน้ำใส ๆ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อยนัก
  • บริเวณที่รักษาเกิดรอยปื้นสีคล้ำหรือซีดกว่าสีผิวปกติ
  • ขนหลุดร่วง
  • มีรอยช้ำ
  • เสี่ยงเกิดการติดเชื้อที่ผิวหนังบริเวณดังกล่าว

ข้อดีและข้อเสียของการทำ IPL

ผู้ที่ต้องการรักษาปัญหาผิวพรรณหรือกำจัดขนด้วยการทำ IPL ควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียของวิธีนี้เปรียบเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่น ดังนี้

ข้อดี

  • เป็นวิธีรักษาปัญหาผิวพรรณและกำจัดขนที่ใช้ได้กับทุกส่วนของร่างกาย
  • การรักษาแต่ละครั้งใช้เวลาน้อยกว่าวิธีอื่น
  • ช่วยขจัดริ้วรอย จุดด่างดำ และกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • แสง IPL ไม่ทำลายผิวหนังชั้นนอก ส่งผลให้เสี่ยงได้รับผลข้างเคียงน้อยกว่าการรักษาด้วยวิธีกรอหน้าหรือการทำเลเซอร์
  • ผิวหนังฟื้นตัวได้เร็ว

ข้อเสีย

  • การทำ IPL อาจใช้ไม่ได้ผลดีกับบริเวณผิวหนังที่ไม่สม่ำเสมอ ผู้ที่มีผิวคล้ำหรือขนสีอ่อน รวมถึงผู้ที่มีแผลเป็นคีลอยด์หรือมีแนวโน้มเกิดแผลเป็นชนิดนี้
  • ต้องรักษาซ้ำหลายครั้งจึงจะได้ผลลัพธ์ตามต้องการ
2

YAG Laser

"YAG Laser"

เป็นเลเซอร์กำจัดขนแบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในขณะนี้ โดย YAG Laser คือคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นอยู่ที่ 1064 nm ซึ่งช่วงความยาวคลื่นขนาดนี้จะสามารถลงลึกไปในผิวหนังชั้นลึกได้ถึง 7 มิลลิเมตร อีกทั้งยังสามารถจับกับเม็ดสีของเส้นขนได้ดีมาก จึงทำให้สามารถกำจัดเส้นขนได้หมดจด

ทำไมต้องกำจัดขนถาวรด้วย ND Yag Laser?

ข้อดีของกำจัดขนด้วยเทคโนโลยี ND Yag Laser ของเรามีดังนี้

  • ช่วยทำให้ใบหน้าดูขาวใส เรียบเนียน
  • ลดรอยดำ รอยแผลเป็นที่เกิดจากสิว
  • ช่วยรักษาปัญหาผิวหยาบกร้าน รูขุมขนใหญ่
  • ช่วยทำให้ผิวกระชับอ่อนเยาว์ และริ้วรอยลดลง
  • ราคาไม่แพง ยิ่งซื้อเป็นคอร์สยิ่งคุ้มมาก

เลเซอร์กำจัดขนด้วย ND Yag Laser เหมาะกับใคร?

การเลเซอร์ขนด้วย ND Yag Laser เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีหนวดเครา ขนอ่อนบริเวณใบหน้า หรือขนรักแร้ และขนหน้าแข้ง ทั้งนี้ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดควรทำติดต่อกันอย่างน้อย 5 -6 ครั้ง โดยทิ้งช่วงห่าง 2 สัปดาห์ ขณะทำไม่รู้สึกเจ็บแต่จะรู้สึกร้อนๆ หลังยิงอาจรู้สึกแดงเล็กน้อย และหายได้เอง เลเซอร์เป็นลำแสงที่ถูกนำมาใช้หลายกรณี สำหรับด้านความสวยความงาม เป็นการฟื้นฟูผิวใหม่ให้เรียบเนียนสดใสขึ้น หลังยิงเลเซอร์ชนิดนี้จะทำให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าละเอียดขึ้น โดยไม่เกิดแผลตกสะเก็ด

3

Diode Laser

"Diode Laser"

เป็นคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นค่อนข้างหลากหลาย โดยในปัจจุบันที่นิยมใช้นั้นมีช่วงคลื่นความยาวตั้งแต่ 800-810, 940, 1064-1350 nm เลเซอร์ Diode สามารถดูดซับเม็ดสีได้ค่อนข้างมาก และสามารถลงลึกถึงผิวหนังชั้นในส่วนลึกได้ จึงทำให้มีความสามารถในการกำจัดขนสูงเมื่อเทียบกับการใช้เลเซอร์ชนิดอื่นๆ

สำหรับ IPL (intense pulsed light) นั้น ไม่จัดอยู่ในเลเซอร์ เนื่องจากไม่ใช่พลังงานเลเซอร์ เป็นเพียงแสงความเข้มสูงเท่านั้น แม้จะสามารถทำลายรากขนได้ แต่ไม่สามารถทำลายได้ทั้งหมด ทำให้อาจยังหลงเหลือเส้นขนอยู่ ที่ผ่านมามีหลายเคสที่ผิวเกิดการไหม้หลังจากทำกำจัดขนด้วย IPL พบมากในผู้ที่มีผิวสีเข้ม ดังนั้นแพทย์ผิวหนังในคลินิกที่มีประสบการณ์ด้านการกำจัดขนด้วยเลเซอร์จะไม่แนะนำให้ใช้ IPL ในการกำจัดขน

ประโยชน์ของ Diode Laser

Diote Laser เป็นเลเซอร์ที่สามารถยืดหยุ่นในเรื่องของความยาวคลื่นได้ โดยมีแสงเลเซอร์ที่ผ่านผิวลงไปได้ลึก จึงสามารถกำจัดขนได้ทั้งเส้นใหญ่ และเส้นเล็ก พร้อมทั้งชะลอการเกิดเส้นขนใหม่ สามารถยิงได้อย่างรวดเร็ว แม้ในบริเวณกว้าง ทำได้รวดเร็วกว่าเลเซอร์ชนิดอื่น โดยไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ จึงไม่ต้องใช้ยาชาแต่อย่างใด (ขึ้นอยู่กับบุคคลว่าจะทนเจ็บได้หรือไม่) ทำงานด้วยระบบความเย็นที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดขน ปลอดภัยต่อผิวหนังชั้นบน ทำให้ไม่เกิดการบาดเจ็บของผิวหลังทำเลเซอร์ จึงช่วยปกป้องผิวด้านบนไม่ให้เกิดรอยไหม้ ลดการแดงของผิวหนัง พร้อมยังช่วยแก้ปัญหาอาการขนคุดริ้วรอยต่างๆ และช่วยในการกระชับรูขุมขนด้วย

โดยผลลัพธ์หลังทำครั้งแรกจะสังเกตได้ว่าปริมาณเส้นขนลดลงทันทีอย่างน้อย 30% เส้นขนที่เกิดใหม่จะมีขนาดเล็กลง สีอ่อนลง ปริมาณน้อยลง เมื่อทำติดต่อกันเรื่อย ๆ เส้นขนก็จะค่อย ๆ หมดไป รูขุมขนกระชับขึ้น รวมทั้งไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยให้ผิวเรียบ ดูเรียบเนียน เกลี้ยงเกลามากขึ้น และขาวใสขึ้น

ผลลัพธ์หลังทำ Diode Laser

ในขณะทำเลเซอร์ขนบางเส้นอาจจะหลุดออก โดยขนจะหลุดทั้งหมดภายใน 1 สัปดาห์ จากนั้นอาจมีขนอ่อนเกิดขึ้นใหม่ใน 2 – 4 สัปดาห์ ซึ่งขนาดเส้นขนที่เกิดใหม่มักจะเล็กลง และปริมาณน้อยลง หลังการยิงเลเซอร์ โดยหลังการทำเลเซอร์กำจัดขนผิวหนังส่วนใหญ่จะมีรอยแดงชมพูบนผิวหนัง และจะหายไปภายใน 1 – 2 ชั่วโมง สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติเมื่อมีขนเกิดขึ้น ไม่ควรโกน ถอน หรือแว๊กซ์ขน จนกว่าจะครบกำหนดในการทำ Diode Laser ครั้งต่อไป

Diode Laser ราคาเท่าไหร่

Diode Laser ราคานั้นขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการจะทำเลเซอร์ขน หรือ ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละบุคคล ซึ่งทำให้ราคานั้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล บางบริเวณก็กินพื้นที่มากกว่าหรือทำเลเซอร์ยากกว่า เพื่อความชัวร์ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้แจ้งให้ทราบถึงบริเวณที่เราต้องการจะทำเลเซอร์ จากนั้นแพทย์ก็จะวินิจฉัยว่าเราควรทำบ่อยแค่ไหน บริเวณที่เราต้องการทำนั้นต้องใช้เทคนิคสูงหรือไม่ หรือบางที่อาจจะมีโปรโมชั่นเหมาทำตามจุดต่างๆ ราคาก็จะแตกต่างไปเช่นกัน ควรตรวจสอบราคาให้ละเอียดว่าเราจะได้รับประโยชน์อะไรบ้าง และนำไปเปรียบเทียบกับหลายๆ ที่เพื่อความคุ้มค่า

ทำ Diode Laser กี่ครั้งถึงเห็นผล

เนื่องจากเส้นขนในแต่ละส่วนของร่างกายมีอายุไม่เท่ากัน โดยอายุของเส้นขนนั้นมีผลต่อการทำเลเซอร์ เพราะเลเซอร์จะได้ผลดีกับเส้นขนที่อยู่ในระยะ Anagen หรือเป็นระยะที่เส้นขนยังอ่อนอยู่ ถ้าหากไม่เคยผ่านการทำเลเซอร์ขนมาก่อน แสดงว่าเส้นขนนั้นอยู่ในระยะที่โตเต็มที่แล้ว จึงทำให้เห็นผลเพียง 30% จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการกลับมาทำ Diote Laser จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับปริมาณขนในแต่ละบริเวณ ลักษณะเส้นขน และสีผิว Diode Laser ควรทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 5 – 8 ครั้ง เว้นระยะทุก 4 – 6 สัปดาห์

เตรียมตัวอย่างไรก่อนการทำ เลเซอร์กำจัดขน?

เนื่องจาก เลเซอร์กำจัดขนป็นเลเซอร์ในกลุ่มที่ไม่ทำให้เกิดแผลหลังการรักษาจึงไม่ต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษแต่อย่างไร แต่ควรงดการแวกซ์ขนก่อนการทำ 2 สัปดาห์

วิธีการดูแลผิว หลังทำเลเซอร์กำจัดขน

  • ควรทาครีมบำรุงผิว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นประจําทุกวัน
  • ทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 15 เป็นอย่างน้อย
  • ควรทําทรีทเม้นท์กลุ่มบํารุงผิวอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น นุ่ม นวล และเรียบเนียนแก่ผิว
  • หลังทําเลเซอร์ สามารถแต่งหน้าและทํากิจกรรมได้ตามปกติ

เลเซอร์ขน แบบไหนดีที่สุด?

  • เลเซอร์กำจัดขนที่มีในปัจจุบันต่างมีข้อดีที่แตกต่างกันไป แต่แบบไหนจะดีที่สุดนั้นต้องพิจารณาถึงหลายๆ อย่างด้วยกัน โดยเลเซอร์กำจัดขนที่ดีควรมีช่วงความยาวของคลื่นที่มากเพียงพอ เพราะช่วงความยาวของคลื่นส่งผลโดยตรงต่อการกำจัดขน หากช่วงความยาวของคลื่นนั้นสูงมากพอจะทำให้คลื่นพลังงานลงลึกไปถึงรากขนได้และสามารถทำลายรากขนได้ดี โดยคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่สามารถกำจัดขนได้ดีคือ คลื่นพลังงานเลเซอร์ที่มีช่วงความยาวของคลื่นตั้งแต่ 900 nm ขึ้นไป อย่างเช่น YAG Laser และ Diode เป็นต้น
  • ไม่เพียงเท่านั้น การทำเลเซอร์กำจัดขนจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ก็ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสีผิว สีของเส้นขน และปริมาณของเส้นขนในบริเวณที่ทำ ฮอร์โมนของผู้เข้ารับบริการ รวมไปถึงการตอบสนองต่อแสงเลเซอร์ของแต่ละคนอีกด้วย และที่สำคัญซึ่งมองข้ามไม่ได้เลยคือ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของผู้ให้บริการ เพราะหากเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการเลเซอร์กำจัดขน จะสามารถปรับความเข้มข้นของคลื่นพลังงาน เพื่อกำจัดขนได้อย่างเหมาะสม ผลลัพธ์ที่ออกมาจะมีประสิทธิภาพ สามารถกำจัดขนออกได้อย่างหมดจด รูขุมขนดูเล็กลงและเรียบเนียนขึ้น เป็นที่น่าพึงพอใจและเป็นไปตามความคาดหวังของผู้เข้ารับบริการ

งบน้อยก็สวยได้ ด้วยเลเซอร์ขน ราคาถูก

เชื่อว่าสาวๆ หลายคนคงอยากมีผิวพรรณที่เรียบเนียน เกลี้ยงเกลา ไร้ขน เวลาใส่เสื้อผ้าโชว์แขน ขา รักแร้ ก็จะสร้างความมั่นใจ และน่าชวนมองแก่ผู้พบเห็น ซึ่งวิธีการเดิมๆ ที่สาวๆ เคยใช้ก็คงไม่พ้นการโกน ซึ่งอาจทำให้เกิดบาดแผล มีเลือดออกได้ แถมขนที่ขึ้นมาใหม่ก็ดกหนากว่าเดิม บางคนใช้แหนบถอนขน กว่าจะหมดก็เจ็บแสบไปพอสมควร แถมทิ้งหนังตูดไก่ รอยคล้ำให้ดูกันอีก บางคนใช้แว็กซ์วก็ยังเจ็บกว่าเดิม

ดังนั้น ในปัจจุบันที่วิวัฒนาการทางความงามก้าวล้ำ วิธีการข้างต้นจึงแทบจะไม่มีใครใช้กันอีก สาวๆ ส่วนใหญ่จึงหันมาพึ่งการทำเลเซอร์ขน เพราะปัจจุบันเลเซอร์กําจัดขนมีราคาไม่ได้แพงอย่างที่คิด อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ไม่เจ็บ ใช้เวลาไม่นาน ผิวไม่คล้ำด้าน รวมถึงจำนวนขนที่ขึ้นมาใหม่ยังน้อยลงอีกด้วย

สำหรับสาวๆ ที่มีปัญหาขนเยอะแต่ไม่รู้ว่าจะเลเซอร์ขน คลินิกไหนดี? ทาง Topthai Clinic ได้จัดอันดับ 10 อันดับ คลินิกเลเซอร์กำจัดขนที่ดีที่สุด