เจ้าสาวทุกคนล้วนแล้วแต่มีความฝันที่อยากจะสวยโดดเด่นที่สุดในงานแต่งงาน แต่ในปัจจุบัน มีผู้หญิงเก่งอยู่ไม่น้อยที่ทำงานจนไม่มีเวลาดูแลตัวเอง บางคนก็ไม่มีความรู้หรือผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้คำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนแต่งงานได้อย่างถูกต้อง คลินิกเสริมความงามหลายแห่งจึงได้มี คอร์สเจ้าสาว ขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบคนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยเตรียมตัวว่าที่เจ้าสาวให้มีความงาม ความมั่นใจและความพร้อมสำหรับงานแต่งของตัวเอง

คอร์สเจ้าสาวเหมาะกับใคร?

การเป็นเจ้าสาวเพียงแค่วันเดียว และยังเป็นวันที่เราจะต้องโดดเด่นมากที่สุด คอร์สเจ้าสาว จึงถูกออกแบบมาเพื่อดูแลและเตรียมความพร้อมให้กับว่าที่เจ้าสาวในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการบำรุงผิวหน้า ผิวกาย ดูแลสัดส่วนให้เข้ารูป รวมไปถึงการจัดรูปหน้าให้เป๊ะขึ้นกล้อง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่สามารถรังสรรค์ได้ในชั่วข้ามคืน แต่ต้องอาศัยระยะเวลากับความสม่ำเสมอ ดังนั้น คอร์สเจ้าสาว จึงเหมาะกับว่าที่เจ้าสาวที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลตัวเอง หรือไม่รู้ว่าจะดูแลตัวเองอย่างไร ให้ออกมาสวยพร้อมสำหรับวันแต่งงาน

วิธีการเลือกคอร์สเจ้าสาว

ในปัจจุบัน มีคอร์สเจ้าสาวให้เลือกมากมายจากหลายคลินิก สาวๆ จึงควรเลือกคลินิกให้เหมาะกับความต้องการของตนเอง ซึ่งคอร์สเจ้าสาวจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ คอร์สที่ช่วยดูแลผิวพรรณ คอร์สที่ช่วยปรับโครงหน้าให้เป๊ะและคอร์สที่ช่วยดูแลรูปร่างให้กับเจ้าสาว ดังนี้

• คอร์สเจ้าสาวที่ช่วยดูแลผิวพรรณปรับสีผิว

  

  การใส่ชุดเจ้าสาวให้ดูดีนั้น สิ่งสำคัญคือ จะต้องมีผิวสุขภาพดีและสดใสเปล่งปลั่ง โดยหลายคลินิกก็มีบริการในการดูแลผิวสำหรับเจ้าสาวเป็นคอร์ส เพื่อให้ผิวเกิดการปรับตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการดูแลผิวพรรณสำหรับผิวกายนั้น จะมีทั้งการพอกโคลน แช่น้ำนมและขัดผิวเพื่อให้ผิวเนียนนุ่ม ในส่วนของผิวหน้าก็มีการดูแลเป็นพิเศษทั้งไวท์เทนนิง นวดยกกระชับและการทำทรีทเมนท์เข้มข้น ฉีดผิวขาว เลเซอร์ เพื่อช่วยลดเลือนจุดด่างดำและกระชับรูขุมขนให้แลดูอ่อนกว่าวัย เพราะเมื่อผิวสดใสสุขภาพดีจะทำให้เรามีออร่าและดูโดดเด่นมากขึ้นค่ะ
• คอร์สเจ้าสาวที่ใช้ช่วยการปรับโครงหน้า

  

  นอกเหนือจากการมีผิวพรรณสดใสแล้ว เชื่อว่าสาวๆ หลายคนก็คงอยากมีโครงหน้าเป๊ะปังเข้ารูป ดังนั้น การเลือกคอร์สเจ้าสาวที่ใช้ ปรับรูปหน้า ให้เป๊ะจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเราสามารถปรับรูปหน้าได้ทันที เห็นผลรวดเร็วและเจ็บน้อยไม่ต้องพักฟื้น

  สำหรับเจ้าสาว ที่มีปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกิน มีเหนียงหรือโครงหน้าไม่ชัดก็สามารถเลือกฉีด Botolinum Toxin ที่รู้จักกันดีในนามของ “โบท็อกซ์” ช่วยเรื่องริ้วรอย ปรับหน้าเรียว สลายไขมัน และสามารถ ร้อยไหม ให้หน้าเรียวไปพร้อมกับการยกกระชับได้ แต่ถ้าแก้มตอบก็สามารถ ฉีดฟิลเลอร์ เติมเต็มหน้าให้ดูเอิบอิ่มอ่อนวัย โดยควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษา เพื่อปรับโครงหน้าให้เหมาะสมกับตัวเองค่ะ

• คอร์สเจ้าสาวที่ช่วยดูแลรูปร่างกระชับสัดส่วน

  

  หลายคนคงปฎิเสธไม่ได้ว่า ยิ่งมีรูปร่างดีเท่าไรยิ่งมีความมั่นใจมากเท่านั้น แต่การที่จะออกกำลังกายทุกวันอย่างมีวินัยอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน คลินิกหลายแห่งจึงได้มีคอร์สเจ้าสาวที่ช่วย กระชับสัดส่วน แบบเจ็บตัวน้อยแต่เห็นผลเร็ว อย่างการใช้พลังงานคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มาช่วยในการลดเซลลูไลท์สลายไขมันและกระชับผิว

  ไม่เพียงเท่านั้น บางแห่งยังมีเทคโนโลยีในการกำจัดไขมันแบบถาวรคล้ายกับการดูดไขมันที่สะสมใต้ผิวหนังไปพร้อมกับทำลายเซลล์ไขมันอย่าง Coolsculpting, HIEMT, Emsculpt ไว้ให้บริการอีกด้วยค่ะ ซึ่งมีจุดเด่นคือ เห็นผลชัดเจน ไม่เจ็บและไม่ต้องพักฟื้น ทั้งยังได้รับการรับรองผลจาก U.S. FDA ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความปลอดภัยสูง

  

คอร์สเจ้าสาว อยากสวยทันวันแต่ง ทำช่วงไหนดี?

อีกหนึ่งวันสำคัญของผู้หญิง คือ วันแต่งงาน ที่เราอยากดูสวยเพอร์เฟคที่สุดในวันนั้น ซึ่งนอกเหนือจากการเข้าคอร์สเจ้าสาวทำสวยแล้ว ถ้าจะฉีดนู้น จิ้มนี่ เพิ่มเติม ควรจะทำช่วงไหนก่อนถึงวันแต่งงานดี จะได้มีใบหน้าที่เข้าที่ สวยปังปุริเย่

Timeline ทำสวยเจ้าสาว

ก่อนแต่งงาน 1 ปี

อยากศัลยกรรม แก้ไขส่วนต่างๆ เราแนะนำให้ทำก่อน 1 ปี นอกเหนือจากแผลที่จะหายทันแล้ว ส่วนที่ได้รับการแก้ไขยังเข้าที่แล้วอีกด้วย จะถ่ายรูปมุมไหนก็เป๊ะขึ้น

ก่อนแต่งงาน 6 เดือน

อยากมีผิวที่กระชับ เต่งตึงค่อนข้างถาวร ก็ต้องร้อยไหม ช่วยเรื่องเก็บเหนียงได้ดี เห็นผลเลย อยู่ได้นาน แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องผิวเท่าไร, Ulthera หรือ Thermage ให้ความกระชับ และช่วยเรื่องผิวให้ดูเนียนขึ้น แต่อยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี ซึ่งหากมองในภาพรวมทั้ง 3 อันนี้การทำงานจะต่างกัน แต่ให้ผลลัพธ์คล้ายกัน คือใบหน้าจะดูกระชับ ลดความหย่อนคล้อย ได้ความเป็นธรรมชาติ แต่จะเลือกอันไหนนั้นขึ้นอยู่กับผิวของแต่ละคนด้วย แนะนำปรึกษาแพทย์จะดีที่สุด

ก่อนแต่งงาน 3 เดือน

ถ้าอยากหน้าดูเพอร์เฟค แนะนำฉีด สลายไขมัน, ฉีดโบท็อกซ์ หรือ ฉีดฟิลเลอร์ ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการเติมเต็ม หรือลดริ้วรอย ช่วยแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเก็บเหนียง เพื่อให้หน้าเรียวขึ้น ลดไขมัน กระชับ ปรับรูปหน้าให้สมส่วน ซึ่งจะเน้นอะไร และต้องการแบบไหน ควรปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากต่างทั้งราคา และผลลัพธ์ในระยะยาวอีกด้วย

ก่อนแต่งงาน 2 เดือน

ฮิตไม่แพ้การฉีดโบท็อกซ์ ฟิลเลอร์ ก็การเติมวิตามิน, การสครับผิว หรือเลเซอร์หน้าใส อันนี้เป็นการทำทรีทเม้นท์ที่ไม่เจ็บเท่าวิธีอื่นๆ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องรอเข้าที่ แต่ควรทำต่อเนื่องสม่ำเสมอ และถ้าอยากทำพร้อมกันทั้ง 3 วิธีแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอ เนื่องจากอาจมีข้อจำกัดในผิวแต่ละคน

ก่อนแต่งงาน 1 เดือน

เมโสหน้าใส ถือว่าเป็นการทำทรีทเม้นท์ชนิดหนึ่ง แก้ไขสำหรับคนที่มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ อาจจะมีพวก ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำ ก็ทำได้เช่นกัน แต่ถ้าทำพวกคอร์สหน้าใส เลเซอร์หน้าใสมาแล้ว วิธีนี้อาจจะข้ามไปได้เช่นกัน หรือปรึกษาคุณหมอเพื่อวิเคราะห์ปัญหาผิวหน้าอีกครั้งจะได้แก้ปัญหาได้ตรงจุด และคุ้มกับเงินที่ลงทุนนั่นเอง

ก่อนแต่งงาน 1 สัปดาห์

แนะนำทำทรีทเม้นท์ ฉีดผิวขาวก่อนเข้าโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันจริง เป็นทรีทเม้นท์ฉีดผิวขาว เช่น เพิ่มความชุ่มชื่น หรือเติมน้ำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น เพื่อให้ผิวได้รับการเติมสารอาหารอย่างเต็มที่ แต่ก่อนหน้านั้นสามารถทำอย่างสม่ำเสมอได้ 1 -2 เดือน ทุกอาทิตย์หรือ 2 อาทิตย์ในหนึ่งเดือนก็ได้เช่นกัน

คอร์สเจ้าสาวที่ไหนดี

การเลือกเข้าคอร์สเจ้าสาวกับคลินิกเสริมความงาม คุณจะได้รับการบริการระดับมืออาชีพราวกับเป็นเจ้าหญิง ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำแร่ แช่น้ำนม การนวดกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อผิวที่เปล่งปลั่งและเติมความชุ่มชื้น การฉีดผิวขาว ปรับรูปหน้าจนถึงคอร์สบำรุงความงามต่างๆ บางคลินิกอาจมีกระทั่งการแวกซ์ขนทั่วเรือนร่าง เพื่อเตรียมคุณให้เป็นเจ้าสาวที่เปล่งประกายมากที่สุด ซึ่งสังเกตุเห็นง่ายๆ เลยจากการพูดถึง บอกต่อหรือการรีวิวจากคนจำนวนมาก โดยเราสามารถดูได้จากภาพก่อนรักษา-หลังรักษา ส่วนใหญ่คอร์สเจ้าสาวที่ไหนดี ชื่อนี้จะมีการพูดถึงบ่อยในโลกออนไลน์อยู่เสมอๆ

Top Thai Clinic ได้รวบรวม 10 อันดับ คอร์สเจ้าสาวที่ดีที่สุด ปี 2024 มาให้เลือกกัน